อาร์เจนตินา และ เมสซี่
ขาดเหลืออะไร ทำไมไปไม่ถึงฝัน
วันที่ 11 July 2019
เป็นเรื่องธรรมดาที่ใครบางคนจะสัมผัสความล้มเหลวบ้างในชีวิต
แต่อาจเป็นเรื่องไม่ธรรมดาสำหรับคนที่มีชีวิตด้านหนึ่งมีกราฟความสำเร็จอย่างสูง
ขณะที่อีกด้านหนึ่งกลับอยู่ในอีกมุมที่ตกต่ำอย่างน่าเหลือเชื่อ
กรณีนี้เป็นประเด็นที่ใกล้เคียงเมื่อพูดถึงผลงานของลิโอเนล เมสซี่
กับทีมชาติอาร์เจนตินา อดีตมหาอำนาจลูกหนังจากอเมริกาใต้
ที่มีดาวเตะระดับรางวัลบัลลงดอร์ 5 สมัยอยู่ในทีม
ทีมฟ้า-ขาว อาร์เจนตินา
เจ้าของแชมป์โลก 2 สมัยห่างหายจากความสำเร็จในรายการระดับเมเจอร์นานกว่าทศวรรษแล้ว
ไม่ใช่ว่าพวกเขาทำผลงานได้ย่ำแย่ไปเสียหมด เพียงแต่ประเด็นอยู่ที่ว่า
พวกเขาไม่สามารถฝ่าด่านหินด่านสุดท้ายไปได้ ไม่เพียงแค่ศึกโคปา อเมริกา 2019
ซึ่งพวกเขาก็ตกรอบตัดเชือก อีก 5 ครั้งก่อนหน้านั้นก็พลาดท่าในนัดชิงฯ
ทำได้แค่รองแชมป์ถึง 4 ครั้ง ตลอดครึ่งทศวรรษหลัง อาร์เจนตินา
ประสบความสำเร็จแค่ระดับโอลิมปิกเท่านั้นคือ เหรียญทองในปี 2004 และโอลิมปิกที่แดนมังกรเมื่อปี 2008 ซึ่งเป็นรายการที่ถือว่าใช้ทีมชุดผสม
(อายุต่ำกว่า 23 ปีเป็นหลัก) กันตามระเบียบของรายการ
ซึ่งแฟนบอลอาร์เจนไตน์
หรือแฟนบอลทั่วไปที่เอาใจช่วยทีมฟ้า-ขาวเห็นตรงกันว่าไม่เพียงพอสำหรับทีมระดับนี้ ความผิดหวังครั้งแล้วครั้งเล่า
โดยเฉพาะในโคปา อเมริกา ซึ่งลิโอเนล เมสซี่
ถูกมองว่าเป็นกำลังหลักที่จะช่วยให้พวกเขาได้แชมป์ครั้งแรกในรอบ 26 ปี แชมป์ครั้งหลังสุดที่พวกเขาทำได้คือเมื่อปี 1993 อาร์เจนตินา
ที่นำมาโดยดาวเตะระดับโลกแพ้นัดชิงชนะเลิศ 4 ครั้งในรอบ 5
ปี และครั้งล่าสุดในปี 2019 หมายถึงว่า
เป็นทัวร์นาเมนต์ที่ 9 กับทีมชาติรวมทุกรายการที่ เมสซี่
และฟ้า-ขาวไม่สามารถชูถ้วยแชมป์ได้ ซึ่งมันคงไม่ใช่เรื่องโชคชะตาอย่างเดียวแล้ว
กระทั่งดาวเตะจากบาร์เซโลนา ประกาศอำลาทีมชาติเมื่อปี 2016 หลังผิดหวังจากนัดชิงแชมป์แต่ก็ยังกลับมาลุยฟุตบอลโลก
2018 ตามเสียงเรียกร้อง (ซึ่งก็ไม่ประสบความสำเร็จอีก) หลายคนยอมรับว่า อาร์เจนตินา
ชุดนี้ก็ไม่ได้ย่ำแย่ถึงขนาดเป็นรองทีมแถวหน้าของอเมริกาใต้ด้วยกัน
ประเด็นที่สำคัญกว่านั้นคือ ศักยภาพในการหลอมรวม
หรือใช้ประโยชน์จากบุคคลเฉพาะตัวอย่างเมสซี่ให้เป็นประโยชน์ ซึ่งอาร์เจนตินา
มักถูกเปรียบเทียบว่า พวกเขามีเมสซี่
แต่ไม่สามารถผงาดคว้าแชมป์ได้เหมือนกับที่ ดิเอโก้ มาราโดน่า
ตำนานนักเตะพาทัพฟ้า-ขาวที่มีผู้เล่นซึ่งฝีเท้าห่างชั้นกว่าตัวเขาเองชูแชมป์โลกเมื่อปี
1986
แต่ในความเป็นจริง ทีมอาร์เจนตินา ยุคหลังน่าจะมีปัญหาเรื้อรังหนักหนากว่าสมัยมาราโดน่า
ในแง่หนึ่ง เมสซี่ พาทีมชาติมาไกลกว่าศักยภาพทีมตามความเป็นจริงด้วยซ้ำ
อย่างกรณีเกมตัดเชือกเมื่อปี 2015 หากไปดูสถิติเขามีส่วนร่วมกับทั้ง
6 ประตูที่ยิงปารากวัยได้ แต่สุดท้ายก็ดวลจุดโทษแพ้ชิลี
ในนัดชิงแบบน่าผิดหวัง โดยที่เมสซี่ ยิงจุดโทษคนแรก
ขณะที่ลูกทีมอาร์เจนไตน์ที่เหลือยิงพลาด ปัญหาในส่วนของดาวเตะที่พยุงทีมไม่ได้อยู่ที่ฝีเท้า
แต่ถูกมองว่าไปอยู่ที่ภาวะผู้นำมากกว่า ไม่มีใครปฏิเสธว่า
เกมรับของทีมฟ้า-ขาวมีปัญหามาแต่ไหนแต่ไร
เมื่อเผชิญเกมสวนกลับใครก็หายใจไม่ทั่วท้อง แต่ในขณะเดียวกัน หากเทียบให้เห็นภาพ
เมื่ออาร์เจนตินา ตกอยู่ในสภาพสกอร์เป็นรองคู่แข่งแล้วถูกโต้กลับ
หรือในแมตช์ที่คู่แข่งคุมเกมได้เหนือกว่า เมสซี่
ไม่ได้เป็นคนคอยกระตุ้นเพื่อนร่วมทีมมากเท่ากับพฤติกรรมของ คริสเตียโน่ โรนัลโด้
แข้งร่วมสมัยกับโปรตุเกส ซึ่งพวกเขาประสบความสำเร็จในยูโร และเนชั่นลีกส์
โดยที่ขุมกำลังของโปรตุเกส ก็ต้องพึ่งพาฝีเท้าโรนัลโด้ มากกว่าครึ่งหนึ่งเช่นกัน
ซึ่งจะเชื่อมโยงมาถึงการวางแท็กติกจากผู้บังคับบัญชาเอง
ที่สำคัญคือ บุคลากรระดับสูงอย่างโค้ชซึ่งจะเห็นได้ว่า
หลายชาติใช้ประโยชน์จากความสามารถในการพัฒนาและจัดระเบียบของโค้ชและผู้จัดการทีมที่มีประสบการณ์
มีวิสัยทัศน์ ช่วยยกระดับทีมโดยใช้แหล่งทรัพยากรที่มีอยู่ให้เกิดประโยชน์สูงสุด
ไม่ว่าทีมจะมีผู้เล่นระดับโลกหรือไม่ก็ตาม ขณะที่อาร์เจนตินา ยังเลือก ลิโอเนล
สกาโลนี ที่มาจากโค้ชเยาวชน (ค่าจ้างไม่แพง) อย่างไรก็ตาม
พวกเขายังมีเวลาก่อนที่แคมเปญคัดเลือกฟุตบอลโลก 2022 จะเริ่มขึ้น
อย่างน้อยการทำงานของสกาโลนี ยังพอมีแววอยู่บ้างในแง่การเลือกใช้ผู้เล่นหน้าใหม่
แสดงให้เห็นถึงแนวทางที่แตกต่าง มีสัญญาณความเปลี่ยนแปลงบางอย่างอยู่
น่าเอาใจช่วยให้พวกเขามีแรงหนุนที่ดีพอขับเคลื่อนความเปลี่ยนแปลงให้เห็นผลในอนาคต
จากการอ่านบทความวิเคราะห์ข้างต้นค่อนข้างที่จะเป็นเหตุเป็นผล
และเห็นภาพชัดเจนถึงสาเหตุที่ทำให้อาเจนตินาไม่สามารถไปคว้าแชมป์บอลโลกได้ แล้วผู้อ่านท่านอื่นมีความคิดเห็นอย่างไรว่าอะไรคือสิ่งที่ทีมอาร์เจนตินา
และเมสซี่ยังขาดอยู่จนทำให้ไม่สามารถที่จะไปคว้าแชมป์บอลโลกได้
และคิดว่าอาร์เจนตินาจะมีโอกาสที่จะคว้าแชมป์บอลโลกได้อีกหรือไม่
__________________________
0 ความคิดเห็น