ความสัมพันธ์กับสหรัฐอเมริกา


ความสัมพันธ์ระหว่างอาร์เจนตินาและสหรัฐอเมริกาปัจจุบัน

ความสัมพันธ์ทางการเมือง
            ประเทศสหรัฐอเมริกาได้สถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตกับประเทศอาร์เจนตินาในปี 2353 ซึ่งขณะนั้นอาร์เจนตินาก็ได้มีความเป็นอิสระของอาร์เจนตินาจากสเปนแล้ว โดยความสัมพันธ์แบบทวิภาคีระหว่างสหรัฐอเมริกาและอาร์เจนตินามีพื้นฐานมาจากความสนใจร่วมกัน ได้แก่ ด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ด้านการศึกษา ด้านการค้า ด้านสันติภาพและความมั่นคงในภูมิภาค ด้านป้องกันการแพร่ขยาย ด้านการแลกเปลี่ยนทางวัฒนธรรม ด้านสิทธิมนุษยชน รับรองความมั่นคงของประชาชน และด้านการรวมตัวทางสังคม โดยรัฐบาลอาร์เจนตินาได้แชร์เป้าหมายด้านความมั่นคงในระดับประเทศและระหว่างประเทศของสหรัฐอเมริกา ผ่านการมีส่วนร่วมในการปฏิบัติการรักษาสันติภาพระหว่างประเทศและการสนับสนุนการไม่แพร่ขยายอาวุธที่ทำลายล้างสูง
            ความร่วมมือระหว่างสหรัฐอเมริกากับอาร์เจนตินา ได้รวมถึงการริเริ่มในความร่วมมือ ด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีในด้านอวกาศ ด้านการใช้พลังงานนิวเคลียร์อย่างสันติ ด้านการวิจัยทางการเกษตรและเทคโนโลยีชีวภาพการแพทย์ และด้านสิ่งแวดล้อม โดยการประชุมคณะทำงานร่วมด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีทวิภาคีครั้งแรกจัดขึ้นในปี 2553 การประชุมติดตามผลจัดขึ้นในปี 2557ในปี 2554 สหรัฐอเมริกาและอาร์เจนตินาได้ลงนามในข้อตกลงเกี่ยวกับการใช้อวกาศส่วนนอกในทางสันติ(agreement on the peaceful uses of outer space) และในปี 2558 องค์การนาซ่าและหน่วยงานอวกาศของอาร์เจนตินา (CONAE) ได้ลงนามในข้อตกลงทวิภาคีที่เกี่ยวข้องกับ Heliophysics ซึ่งทำให้สหรัฐอเมริกาและอาร์เจนตินามีคณะทำงานด้านพลังงานทวิภาค
            นอกจากนี้ก็ได้มีการจัดตั้งคณะกรรมาธิการในเรื่องการให้ทุน Fulbright ให้มาประจำการอยู่ที่อาร์เจนตินา เพื่อมาดูแลในเรื่องของการให้ทุนแลกเปลี่ยนในด้านการศึกษาทั้งในอาร์เจนตินา และในสหรัฐอเมริกา   ประธานาธิบดีโดนัล ทรัมป์ มีการเจรจากับประธานาบดีมาครี ในการประชุม G20 วันที่ 18 พฤษภาคม 2561 เป็นการประชุมกันครั้งที่ 3 ในช่วง 3 ปี  ซึ่งทางอาร์เจนตินามีแนวคิดนิยมเปโรนิสต์ ซึ่งมีลักษณะขวา-กลาง และสนับสนุนสหรัฐอเมริกาอย่างเต็มที่ (pro-U.S)


ภาพจากการประชุม G20 จาก Washingtontime

ความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจ
            สหรัฐอเมริกาเป็นหนึ่งในประเทศคู่ค้ารายใหญ่ที่สุดของอาร์เจนตินา มีมูลค่าการค้าสินค้า และบริการสูง ถึง 23 พันล้านเหรียญสหรัฐ ในปี 2555 สินค้าที่ส่งออกของสหรัฐอเมริกาไปยังอาร์เจนตินา ได้แก่ เครื่องจักร น้ำมัน สารเคมีอินทรีย์ และพลาสติก และสหรัฐอเมริกาได้นำเข้าสินค้าจากอาร์เจนตินา ได้แก่เชื้อเพลิงแร่ น้ำมัน อลูมิเนียม ไวน์ เหล็ก ผลิตภัณฑ์เหล็ก และอาหารที่ผ่านวิธีการถนอมอาหาร ซึ่งทั้งสองประเทศได้ลงนามในสนธิสัญญาการลงทุนระดับทวิภาคี และมีบริษัทของสหรัฐมากกว่า 500 บริษัท ที่อยู่ในกลุ่มนักลงทุนชั้นนำในประเทศด้วยมูลค่าเกือบ 2 หมื่นล้านดอลลาร์ในอาร์เจนตินา นอกจากนี้เมื่อปี 2556 มีการลงทุนโดยตรงของสหรัฐในอาร์เจนตินาส่วนใหญ่ ในภาคอุตสาหกรรม ภาคการเกษตรทรัพยากร
ธรรมชาติ ภาคการเงิน และบริการ และในปี 2550 สหรัฐอเมริกาและอาร์เจนตินาได้ปรับปรุงข้อตกลงการบินพลเรือนทวิภาคีให้ทันสมัยขึ้นเพื่อปรับปรุงความปลอดภัยและความมั่นคง และจัดหาเที่ยวบินที่บ่อยขึ้นระหว่างทั้งสองประเทศ ทำให้ปริมาณการท่องเที่ยวและการเดินทางทางธุรกิจเพิ่มมากขึ้น
            อาร์เจนตินาและสหรัฐอเมริกามีส่วนร่วมในองค์กรและเวทีระหว่างประเทศร่วมกันหลายแห่ง เช่นสหประชาชาติ, องค์การนานารัฐอเมริกัน (Organization of American States), ทบวงการพลังงานปรมาณูระหว่างประเทศ (Atomic Energy Agency), กลุ่มG20 และองค์การการค้าโลก โดยอาร์เจนตินาได้สิ้นสุดการเป็นสมาชิกลำดับที่แปดในฐานะสมาชิกของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติเมื่อปลายปี 2557
            ข้อเท็จจริงต่าง ๆ เกี่ยวกับการค้า ของ USA กับ อาร์เจนติน่า
GDP อาร์เจนติน่าในปี 2017 ได้ถูกประเมินไว้ที่ 637.7 พันล้านเหรียญ ( เทียบเคียงจากอัตราการแลกเปลี่ยน ในขณะนั้น)  โดยที่ GDP ที่แท้จริงนั้น ได้มีการเติบโตขึ้น จากการประเมินไว้ 2.9 % และ จำนวนประชากร ก็มีจำนวนอยู่ที่ 44 ล้านคน (ที่มาจาก: IMF) สินค้า USA และ การบริการต่าง ๆ กับอาร์เจนติน่า ในปี 2018 นั้น มีจำนวนรวมประมาณ 26.8 พันล้านเหรียญ  ด้านการส่งออก อยู่ที่ประมาณ 19.2 พันล้านเหรียญ;  การนำเข้า อยู่ที่ประมาณ 7.6 พันล้านเหรียญ โดยในปี 2018 มีสินค้า USA และการบริการต่าง ๆ ทางการค้ากับทางอาร์เจนติน่าที่มียอดเกินดุล คิดเป็นเงินอยู่ที่ 11.6 พันล้านเหรียญ
            การบริการกับอาร์เจนติน่า (ทั้งในด้านการส่งออกและการนำเข้า) ในปี 2018 มีมูลค่ารวมอยู่ที่ประมาณ 12 พันล้านดอลลาร์  การส่งออกด้านการบริการ คิดเป็นเงิน 9.3พันล้านดอลลาร์ การนำเข้าด้านการบริการ คิดเป็นเงิน 2.7 พันล้านดอลลาร์ โดยยอดเกินดุลทางด้านการบริการของทางUSAและอาร์เจนติน่า ในปี 2018 มีมูลค่าอยู่ที่ 6.5พันล้านดอลลาร์ ตามที่กระทรวงพาณิชย์ของ USA ได้มีการส่งออกสินค้าและการบริการ ไปยังอาร์เจนตินา โดยให้ความช่วยเหลือทางด้านสร้างอาชีพ ในปี 2015 จำนวนประมาณที่ 88,000 งาน  (โดยเป็นข้อมูลล่าสุดที่หาพบ) (มีการช่วยเหลือสินค้านำเข้า จำนวน 37,000 และ ช่วยเหลือด้านการส่งออกทางด้านบริการ จำนวน 52,000  )
การส่งออก
             อาร์เจนตินา ได้เป็นตลาดการส่งออกสินค้าที่ใหญ่เป็นอันดับที่29 ของ USA  ในปี2018
สินค้าส่งออกของสหรัฐที่ส่งไปอาร์เจนติน่าในปี 2018 มีจำนวน 9.9 พันล้าน โดยเพิ่มขึ้น 3.5% (334ล้านดอลลาร์) จากปี 2017 และ เพิ่มสูงขึ้นถึง 31.6% จากปี 2008
หมวดหมู่สินค้าส่งออกหลัก ๆ (2-digit HS) ในปี 2018 ได้แก่ : แร่เชื้อเพลิง (2พันล้านดอลลาร์) , พวกเครื่องจักร (1.8 พันล้านดอลลาร์), เครื่องจักรไฟฟ้า (824 ล้านดอลลาร์), พวกเมล็ดพืชพรรณต่าง ๆ ผลไม้ (ถั่วเหลือง) (744ล้านดอลลาร์) และ พวกอากาศยาน (615ล้านเหรียญ)
             ในปี  2018 การส่งออกสินค้าเกษตรของUSA ไปยังอาร์เจนตินา มีจำนวนรวมทั้งงสิ้น 896 ล้านเหรียญ สินค้าส่งออกภายในประเทศที่สำคัญ ได้แก่ ถั่วเหลือง (719 ล้านเหรียญ) เมล็ดพืชพรรณต่าง ๆ  (33ล้านดอลลาร์) อาหารสำเร็จรูป (14ล้านดอลลาร์) ขนม (14ล้านดอลลาร์) และ สินค้าพวกโกโก้และชอคโกแล็ต (11 ล้านดอลลาร์)
             ในปี 2018 การส่งออกทางด้านการบริการของ USA ไปยังอาร์เจนติน่า ได้ถูกประเมินอยู่ที่ 9.3 พันล้าน, โดยมากกว่าในปี2017ถึง 2.7% (247ล้านดอลลาร์)  และมากกว่าปี 2008 หลายเท่าตัวถึง 171% ในการบริการส่งออกชั้นนำจากUSA ไปยังอาร์เจนติน่านั้น อยู่ในด้านการท่องเที่ยว โทรคมนาคม คอมพิวเตอร์ การให้บริการทางด้านข้อมูล และภาคการขนส่งต่าง ๆ 
การนำเข้า
            ในปี 2018 อาร์เจนตินาเป็นผู้นำเข้าสินค้ารายใหญ่อยู่ที่อันดับ 50 ของ USA การนำเข้าสินค้าอาร์เจนตินาไปยัง USA ในปี2018  จำนวนรวมทั้งสิ้น 4.9 พันล้านดอลลาร์  โดยจากปี 2017 เพิ่มมากขึ้น 1.7% (81ล้านดอลลาร์) แต่ลดลงจากปี 2008 ถึง 16.5%
            หมวดหมู่ต่าง ๆ ของการนำเข้าที่สูงที่สุด (2-digit HS) ของปี 2018 ได้แก่: แร่เชื้อเพลิง (1.2พันล้านดอลลาร์) อะลูมิเนียม (444ล้านดอลลาร์)  โลหะและเงิน (303ล้านดอลลาร์) เครื่องดื่ม (ไวน์) (294 ล้านดอลลาร์) และพวกอาหารทะเล ปลา กุ้ง (244ล้านดอลลาร์)
            USA นำเข้าผลิตภัณฑ์ทางการเกษตร จากอาร์เจนตินา ในปี 2018 มีมูลค่ารวม 1.4 พันล้านดอลลาร์ จำนวนที่มีอันดับอยู่ในอันดับสูง ๆ ได้แก่ ไวน์และเบียร์ (286ล้านดอลลาร์) น้ำผักและน้ำผลไม้ (154ล้านดอลลาร์) ผลไม้สดอื่น ๆ (140 ล้านดอลลาร์) น้ำมันหอมระเหย (134 ล้านดอลลาร์) และพวกชา รวมไปถึงสมุนไพรต่าง ๆ (70ล้านดอลลาร์USA นำเข้าการบริการ จากอาร์เจนติน่า ในปี 2018 จำนวนรวมประมาณ 2.7 พันล้านดอลลาร์ แต่ลดลงจากปี2017ถึง 5.6% แต่ มากกว่าหลายเท่าจากปี 2008 ถึง 118 %  การบริการจากอาร์เจนตินาชั้นนำที่ส่งออกไปยังUSA อยู่ในภาคบริการการท่องเที่ยวอย่างเป็นมืออาชีพ การจัดการ และ ภาควิจัยและพัฒนา
ดุลการค้า
           การเกินดุลการค้าของUSAกับอาร์เจนติน่า ในปี 2018 อยู่ที่ 5.1 พันล้านดอลลาร์ แต่เพิ่มขึ้นจากปี 2017 จำนวน 5.3% USA ได้มีการเกินดุลการค้าในด้านบริการกับอาร์เจนตินา ในปี 2018 อยู่ที่ประมาณ 6.5 พันล้านดอลลาร์ โดยเพิ่มขึ้นจากปี2017 จำนวน 6.7%
การลงทุน
           การลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศของ U.S. (FDI) ในอาร์เจนติน่า (หุ้น) ในปี2017 อยู่ที่ 14.9 พันล้านดอลลาร์ โดยเพิ่มขึ้นจากปี 2016 จำนวน 6%  โดยการลงทุนโดยตรงของสหรัฐฯในอาร์เจนติน่านั้น เป็นผู้นำผลิตการบริการด้านข้อมูล การเงิน และประกันภัย FDI ของอาร์เจนติน่าในUSA (หุ้น) ในปี 2017 อยู่ที่ 1 พันล้านดอลลาร์ โดยเพิ่มขึ้นจากปี2016 จำนวน 16.8% แต่ไม่มีข้อมูลปรากฏเกี่ยวกับการกระจายตัว FDI ของอาร์เจนตินาในUSA การซื้อขายการบริการในอาร์เจนตินา โดยบริษัทในเครือส่วนใหญ่ของUSA ในปี2015 นั้นอยู่ที่ 9.6พันล้าน (ข้อมูลล่าสุดที่ปรากฏ)

ความได้เปรียบ - เสียเปรียบ
           ผู้ที่ได้รับความได้เปรียบของความสัมพันธ์ทั้งสองชาตินี้ก็คือสหรัฐอเมริกาผู้อยู่เบื้องหลังของอาร์เจนตินาทั้งการเมือง ที่มุ่งเน้นการสร้างความได้เปรียบทางการค้าแก่สหรัฐอมเริกาและสนับสนุนกลุ่มบรรษัทข้ามชาติของสหรัฐอเมริกา สหรัฐจึงมีเงินไหลเข้ากลับคืนสู่ประเทศอย่างมากปฎิเสธไม่ได้ว่าการหมุนเวียนของเงินคงคลังที่ถูกนำมาใช้บนระบบเศรษฐกิจของอาร์เจนตินานั้นมาจากสหรัฐ
          อาร์เจนตินามีระบบเศรษฐกิจที่พึ่งพาสหรัฐอเมริกามากทำให้เมื่อเกิดนโยบายสงครามการค้าของสหรัฐโดยรวม รวมทั้งสงครมการค้าระหว่างสหรัฐกับจีน มาตรการทางการเงินของสหรัฐ นโยบายกีดกันการค้าที่เพิ่มขึ้นทั่วโลก เช่น การขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐสร้างความวิตกกังวลให้นักลงทุนออกจากอาร์เจนตินาได้ ซึ่งส่งผลกระทบทำให้ค่าเงินเปโซอ่อนตัวลง โดยสร้างความเสียเปรียบทางค้าและเศรษฐกิจเป็นอย่างมาก

ผลกระทบต่อการเมืองในประเทศอาร์เจนตินา
           การเข้ามาแทรกแซงทางการเมืองของสหรัฐอเมริกา เริ่มตั้งแต่การแทรกแซงผลการเลือกตั้งใน  โดยสหรัฐจะสนับสนุนพรรคที่มีนโยบายที่ pro-USA  อย่างเช่นการเลือกตั้งในสมัยการเป็นประธานนาธิบดีของเมาซิริโอ แมครี จากพรรค Propuesta Replublicana ซึ่งอยู่ฝ่ายขวา-กลางของกลุ่มพวกอนุรักษ์นิยม โดยตัวนายแมครีเองนั้นมีความสัมพันธ์ทางธุรกิจกับทรัมป์มานานมาก ทำให้ได้รับการสนับสนุนจากทรัมป์ที่เป็นประธานาธิบดีสหรัฐ อีกทั้งยังมีกลุ่มผลประโยชน์โดยเฉพาะกลุ่มธุรกิจขนาดใหญ่ทำให้ได้รับเงินกองทุนการเงินระหว่างประเทศเป็นจำนวนมาก และการล็อบบี้ของสหรัฐจากทั้งเหตุการณ์สำคัญทางการเมือง 
           การกำหนดนโยบายของอาร์เจนตินาจากผู้นำฝ่ายขวาจัดทำให้มีนโยบายที่ pro-USA การกำหนดนโยบายอย่างนโยบายต่างประเทศ นโยบายทางเศรษฐกิจที่มุ่งขับเคลื่อนประเทศเข้าสู่กลไกตลาดโลกในระบบเศรษฐกิจเสรี มีการพยายามดึงดูดนักลงทุนจากต่างชาติ การปรับปรุงกฎระเบียบการนำเข้า-ส่งออก เป็นการเอื้อต่อการแข่งขันทางเศรษฐกิจในภาคเอกชนเป็นสำคัญ โดยการค้าระหว่างประเทศและการปรับปรุงมาตรการการควบคุมอัตราการแลกเปลี่ยน มาตราการทางภาษีและความคล่องตัวทางธุรกรรมเพื่อที่จะทำให้นักลงทุนต่างชาติเข้ามาลงทุนในประเทศโดยเฉพาะสหรัฐ บริษัทข้ามชาติต่างๆที่เข้ามา เช่น Pan American Silver ที่เข้ามาลงทุนทั้งด้านพลังงงาน การขนส่ง โครงสร้างพื้นฐาน เหมืองแร่เงินและลิเธียม  การดำเนินนโยบายใดๆนั้นมักได้รับการสนับสนุนจากสหรัฐ  หลังจากที่ในสมัยรัฐบาล Kirchner มีการสร้างความใกล้ชอดกับฝ่ายซ้ายเป็นพิเศษทั้งจีน รัสเซียและเวเนซุเอลา ระยะเวลานานกว่า 12 ปี  ขณะที่การกระชับความสัมพันธ์กับสหรัฐและชาจิตะวันตกของประธานาธิบดี แมครี กับประธานาธิบดีสหรัฐคนก่อน นายโอบามา ก็ได้ทำข้อตกลงกันเพื่อเพิ่มการลงทุนในอาร์เจนตินาจากสหรัฐ 

บทวิเคราะห์
            การเข้ามาช่วยเหลือของสหรัฐทำให้อาร์เจนตินาพ้นจากภาวะวิกฤตเศรษฐกิจมาได้และกำลังเร่งกลับคืนเศรษฐกิจการช่วยเหลือในทุกด้านของสหรัฐทั้งการศึกษา วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และโดยเฉพาะการค้าและการลงทุนทำให้การดำเนินการต่างๆของรัฐบาลอาร์เจนตินาเป็นไปอย่างระแวดระวัง เพื่อป้องกันผลกระทบกับรัฐมากเกินไป จนลืมมองภาคประชาชนในภาคแรงงานที่เป้นกลุ่มต่อต้านสหรัฐอยู๋แล้วด้วยจากลัทธิ Peronist  กลุ่มสหภาพแรงงานอาจมีการประท้วงการเมืองเหมือนอย่างที่อาร์เจนตินาเคยเกิดขึ้นมาแล้ว แต่ความสัมพันธ์ของสหรัฐกับอาร์เจนตินาก็ทำให้เกิดผลดีมากในรัฐบาลสมัยปัจจุบันของประธานาธิบดีแมครีจากการมีสัมพันธ์ทางธุรกิจกับทรัมป์มาก่อนแล้วการเจรจาต่างๆจึงดูง่ายขึ้นและช่วยสร้างภาพลักษณ์ที่เชื่อถือจากการล่มสลายทางเศรษฐกิจเมื่อปี 2544 กลับขึ้นมาได้จนสามารถกู้ IMF  ได้ก็ถือว่าเป็นการช่วยสร้างเสถียรภาพทางเศรษฐกิจอาร์เจนตินาไปอีกด้วย ทั้งนี้ในมิติทางด้านการเมืองมักจะส่งผลในมิติทางเศรษฐกิจหรือในทางกลับกันนั้น สหรัฐก็ได้เข้ามามีบทบาทสำคัญกับอาร์เจนตินาเป็นอย่างมาก เมื่อเกิดเหตุการณ์ใดขึ้นกับสหรัฐหรือสหรัฐต้องทำสงครามการค้ากับประเทศใดอาร์เจนตินาก็จะร่วมมือด้วยเสมอ 
            ขณะนี้อาร์เจนตินากำลังจะมีการเลือกตั้งอีกครั้ง และในวันที่ท 14 สิงหาคมที่ผ่านมาได้ผ่านการโหวตรอบไพรมิรีโหวตและฝ่ายของ Alberto Fernandez ผู้มีแนวคิดทางซ้ายจัดชนะโหวตนายแมครี ไป ทุกคนคิดว่าความสัมพันธ์ของอาร์เจนตินาจะเป็นอย่างไร และกระทบกับชาติอื่นๆในละตินอเมริกามากแค่ไหน หรือสหรัฐจะเข้ามาแทรกแซงการเลือกตั้งครั้งนี้อีกหรือไม่ หรือจะปล่อยให้อาร์เจนตินาเผชิญชะตากรรมอย่างเวเนซุเอลา ติดตามกันต่อไปเลือกตั้งอีกครั้ง 27 ตุลาคมนี้...



_____________________________________________
อ้างอิงจาก
https://www.washingtontimes.com/news/2018/dec/23/mauricio-macri-argentina-president-faces-re-electi/
https://www.state.gov/u-s-relations-with-argentina/
https://thestandard.co/argentine-markets-and-peso-plunge-after-shock-vote/  




แสดงความคิดเห็น

7 ความคิดเห็น

  1. กลุ่มโคลอมเบีย : สหรัฐอเมริกามีความสัมพันธ์กับอาเจนติน่า ส่วนใหญ่ในประเด็นด้านเศรษฐกิจ โดยเริ่มจริงจังตั้งแต่ปีพ.ศ.2544 เกิดวิกฤตการณ์ทางเศรษฐกิจ จนทำให้อาเจนติน่าต้องกู้เงินจาก IMF ซึ่งสหรัฐอเมริกาก็ได้ยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือ ซึ่งปัจจุบันความสัมพันธ์ระหว่างทั้งสองประเทศนี้มีลักษณะประคองช่วยเหลือซึ่งกันและกัน สังเกตจากการปรึกษาหารือกันของทรัมป์กับเมาซิลิโอเมาคี

    ตอบลบ
  2. ไม่ระบุชื่อ22 กันยายน 2562 เวลา 07:25

    ทั้งสองประเทศมีความสัมพันธ์ที่เป็นไปอย่างสันติและสนับสนุนซึ่งกันและกันเนื่องจากมีความสนใจที่เป็นไปในทางเดียวกันในหลายๆด้าน ทำให้เกิดความร่วมมือในหลายหน่วยงานและหลายองค์กร และยังส่งผลถึงความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจไปจนถึงด้านอื่นๆที่ส่งผลต่อประเทศ อเมริกามีความสำคัญและแทรกซึมหลายๆด้านของอาร์เจนติน่า ทั้งหมดนี้ส่งผลต่อการกำหนดนโยบายของอาร์เจนติน่าโดยเฉพาะทางเศรษฐกิจ ที่มีนโยบายมุ่งขับเคลื่อนประเทศเข้าสู่กลไกตลาดโลกในระบบเศรษฐกิจเสรีเพื่อที่จะทำให้นักลงทุนต่างชาติเข้ามาลงทุนในประเทศโดยเฉพาะสหรัฐ (กลุ่มปานามา)

    ตอบลบ
  3. จากที่อ่านบทความที่นำเสนอความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐอเมริกาและอาร์เจนตินาแล้วดูเหมือนจะเป็นควาสัมพันธ์ที่พึ่งพากัน แต่ในความเป็นจริงแล้วจากพื้นฐานของอาร์เจนตินาที่ยังไม่มีเทคโนโลยีที่ทันสมัยและเงินทุนในการพัฒนาอุตสาหกรรมในประเทศ จึงทำให้นักลงทุนอเมริกาเข้ามาแสวงหาประโยชน์ในอาร์เจติน่าเป็นอย่างมาก และจากตัวเลขการนำเข้าและส่งออก จะเห็นได้ว่าอาร์เจนตินามีความเสียเปรียบอเมริกาในทุกด้าน ผนวกกับผู้นำประเทศที่สนับสนุนการลงทุนจากนักลงทุนอเมริกา มองแต่ผลประโยชน์ของนักลงทุนมากกว่าผลประโยชน์ของประชาชนในประเทศด้วยแล้ว คิดว่าในอนาคตหากยังเป็นเช่นนี้ต่อไป ประชาชนอาจเกิดการลุกฮือขึ้นมาต่อต้าน และเกิดการนองเลือดเกิดขึ้น โดยส่วนตัวคิดว่าผู้นำอาร์เจนตินาควรจะลดการพึ่งพิงจากสหรัฐและหันมาพัฒนาเทคโนโลยีในประเทศให้มีความทันสมัยสามารถที่จะทำอุตสาหกรรมได้ทัดเทียมกับนานาประเทศจะส่งผลดีต่อประเทศมากกว่าในอนาคต (คอสตาริกา)

    ตอบลบ
  4. (กลุ่มบราซิล)
    ความสัมพันธ์ของอาร์เจนตินาและสหรัฐฯ นั้นดูเหมือนว่าจะเป็นไปในลักษณะที่สหรัฐฯ ได้เข้ามามีส่วนเกี่ยวข้องกับทั้งเศรษฐกิจและการเมืองของอาร์เจนตินามากเกินไป ดูจากจำนวนการเข้ามาลงทุนของนักลงทุนต่างชาติชาวอเมริกันที่เข้ามาลงทุนในภาคแต่ละภาคส่วนในเศรษฐกิจของอาร์เจนตินาทั้งภาคอุตสาหกรรม ทรัพยากรธรรมชาติ การเงิน และการบริการ ซึ่งมีมูลค่ากว่า 2 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ขณะที่ในทางการเมืองนั้นสหรัฐฯ ยังเข้ามามีอิทธิพลไม่น้อย ความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดกันอย่างแนบแน่นนี้แสดงให้เห็นถึงการพึ่งพาสหรัฐฯ ของอาร์เจนตินา ขณะที่สหรัฐฯ เป็นฝ่ายที่ได้เปรียบจากการลงทุนโดยตรง อีกทั้งความใกล้ชิดกันของผู้นำรัฐบาลทั้งสองประเทศในปัจจุบันนั้นยังอาจทำให้การดำเนินนโยบายต่างประเทศของอาร์เจนตินามีแนวโน้มว่าจะเป็นไปในทิศทางเดียวกับสหรัฐฯ อีกด้วย ดังเช่นกรณีของสงครามการค้าที่กำลังดำเนินอยู่ในปัจจุบัน ในฐานะของประเทศบราซิลที่มีความสัมพันธ์กับสหรัฐอเมริกามาอย่างยาวนานกว่าสองศตวรรษและมีรูปแบบความสัมพันธ์กับสหรัฐฯ มาหลากหลายรูปแบบ ทั้งช่วงที่เป็นพันธมิตรและเป็นฝ่ายตรงข้ามสหรัฐฯ ดังนั้นบราซิลจึงมองว่าอาร์เจนตินาจำเป็นที่จะต้องมีการปรับเปลี่ยนทิศทางการดำเนินนโยบายโดยลดการพึ่งพาสหรัฐฯ ลง เพื่อที่ว่าเมื่อเกิดปัญหาภายในสหรัฐฯ จะได้ไม่กระทบภาพรวมของประเทศอาร์เจนตินา ดังเช่นบราซิลในช่วงทศวรรษ 1970 ที่เลือกดำเนินนโยบายพึ่งพาตนเองและลดการพึ่งพาสหรัฐอเมริกาลง

    ตอบลบ
  5. ในการยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือของสหรัฐอเมริกานั้นทำให้อาร์เจนตินาพ้นจากภาวะวิกฤตเศรษฐกิจ​ และกำลังกลับคืนเศรษฐกิจ​ที่ดีขึ้น​ สหรัฐอเมริกาได้ให้ความช่วยทั้งการศึกษา วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และโดยเฉพาะการค้าและการลงทุน ซึ่งจากบทความจะทำให้เห็นได้ว่าสหรัฐอเมริกามีความได้เปรียบในความสัมพันธ์นี้อยู่มาก​ และเป็นผู้อยู่เบื้องหลังทั้งการเมือง ที่มุ่งเน้นการสร้างความได้เปรียบทางการค้าแก่สหรัฐอเมริกาและสนับสนุนกลุ่มบรรษัทข้ามชาติของสหรัฐอเมริกา จึงทำให้มีเงินไหลเข้ากลับคืนสู่ประเทศเป็นอย่างมากอีกด้วยครับ​ (เม็กซิโก)​

    ตอบลบ
  6. สหรัฐและอาเจนตินามีการพัฒนาความสัมพันธ์กันเรื่อยมา เพราะว่าสหรัฐก็ต้องการมีอิทธิพลในประเทศกลุ่มละตินอเมริกา จึงให้ความช่วยเหลืออาเจนตินาอย่างมาก สหรัฐจึงกลายเป็นประเทศคู่ค้าที่สำคัญต่ออาเจนตินา จากการที่ได้รับอิทธิพลสหรัฐมากเกินไป อาเจนตินาจึงต้องอาศัยสหรัฐอยู่เสมอ สหรัฐเปรียบได้เหมือนประเทศแม่ที่อาเจนตินาขาดมิได้ ความมั่งคั่งของอาเจนตินามาจากกลุ่มทุนอเมริกัน กลไกการบริหารอาเจนตินามีสหรัฐคอยชักใยอยู่เบื้องหลัง อาเจนตินาจึงให้ความสนับสนุนสหรัฐอเมริกาอยู่ตลอดเวลา (คิวบา)

    ตอบลบ
  7. ความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐอเมริกาและอาร์เจนตินาดูค่อนข้างจะมุ่งเน้นความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจเป็นสำคัญ แม้แต่มิติทางการเมือง การที่สหรัฐอเมริกาเข้ามาแทรกแซงทางการเมืองภายในอาร์เจนตินานั้นก็ดูเหมือนว่าจะเป็นการรักษาผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจของสหรัฐอเมริกาภายในประเทศนี้เป็นสำคัญ (กลุ่มชิลี)

    ตอบลบ